อุตุฯ ออกประกาศหย่อมความกดอากาศต่ำมีกำลังแรง ฉบับที่ 13 เตือน!
ภาคกลาง ภาคตะวันออก อากาศ และภาคใต้ ยังเจอฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วน กทม.เสี่ยงเจอฝนตกหนัก 80% หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับร่องมรสุมได้พาดผ่านภาคใต้ตอนบน นำมาซึ่งการทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหลากฉับพลันและน้ำป่าไหลโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีความกด อากาศ ต่ำฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
ช่วงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดตาก กำแพงเพชร จังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ จังหวัดตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักถึงฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหลากฉับพลัน น้ำป่าไหล และน้ำล้นริมฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ดังนี้เนื่องมาจากหย่อมความกด อากาศ ต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและภาคตะวันออก ประกอบกับร่องมรสุมได้พาดผ่านภาคใต้ตอนบน
สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค และมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร จังหวัดพิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยาสุพรรณบุรี กาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
สมุทรมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์เมืองขึ้นมา: ลมปรวนแปร ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
สมุทรมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
สมุทรมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ จังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อากาศ 7 วัน ข้างหน้า
วันที่ 23- 29 พฤศจิกายน 2565
ในช่วงวันที่ 23 – 25 พ.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมอ่าวไทยตอนบน มีลักษณะท่าทางจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนบนลงสู่ทะเลอันดามันตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พิงผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน นำมาซึ่งการทำให้ประเทศไทยมีฝนมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉเหนือ และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งใน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนคลื่มลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและสมุทรอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 29 พ.ย. 65 ร่องมรสุมที่ได้พาดผ่านบริเวณภาคใต้มีกำลังอ่อน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทั้งยังบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 23 – 25 พ.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยและภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหลากฉับพลันและน้ำป่าไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 24 พ.ย. 65 นี้